แก้ปัญหาHotmailไม่อ่านไทย

ปัญหาตอนนี้คือเมล์รุ่นเก่าจะไม่อ่านภาษาไทยจากเมล์รุ่นใหม่ ผมหวังว่าทุกท่านที่อ่านบทความนี้ทุกคนต้องมี account ของ hotmail หรือ msn กันอยู่แล้ว ให้กรอก e-mail ของท่านที่นี่เลยครับตามลิ้งข้างล่างนี้ครับ

https://imagine-windowslive.com/minisites/mail/Default.aspx?locale=en

จะมีหน้าเพจดังรูปข้างล่าง แล้วให้กรอกอีเมล์ของตัวเองลงไป แล้วกด Submit

ก็จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมาว่า Thank you แล้วก็ให้กดปุ่ม Done ก็เป็นอันเสร็จ ทีนี้ก็รอไม่เกิน1-2วัน จะเร็วจะช้าก็อยู่ที่HotMailแล้วล่ะ แต่ไม่น่าเกิน2วันก็จะได้เมล์ใหม่หน้าตาดังรูป

มาทดสอบโปรแกรมป้องกันไวรัสของคุณกัน

การสร้างไวรัสเพื่อทดสอบโปรแกรม Anti-virus ว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่********
เริ่มเปิด Notepad และ copy ข้อความต่อไปนี้ลงไป

X5O!P%@AP[4\PZX54(P^)7CC)7}$EICAR-STANDARD-ANTIVIRUS-TEST-FILE!$H+H*

แล้วก็เซฟไฟล์ด้วยการเลือก Save as type เป็น All Filesตั้งชื่อเป็น eicar.comผมทดลองดูแล้ว พอเซฟเสร็จปุ๊บ...Nod32 ที่ผมลงไว้แจ้งเตือนให้รีบลบเลยครับถ้าเพื่อน ๆทดลองแล้วยังเงียบอยู่ลองสแกนไฟล์ที่เซฟดูแต่เขาบอกว่าถ้าโปรแกรมมันเจ๋งจริงมันต้องร้องหรือขึ้นข้อความเตือนทันทีที่เซฟเสร็จคำอธิบายเจ้าไฟล์ชื่อ eicar.com ที่เราสร้างขึ้นมาความจริงไม่ใช่ไวรัสมันเป็นแค่ไฟล์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดสอบเท่านั้นโดยสถาบัน European Institute for Computer Anti-virus Research (EICAR)โปรแกรม Anti-virus ทุกโปรแกรมถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ detect ไฟล์นี้ด้วยดังนั้นเป็นการทดสอบที่ปลอดภัยครับอ้อ...ถ้าโปรแกรมไม่ขึ้นข้อความเตือนมันจะต้องแสดงข้อความ text file :
"EICAR-STANDARD-ANTIVIRUS-TEST-FILE"ใน DOS
แต่ผมว่าถ้ามันไม่เตือนตั้งแต่แรก...เอามันออกซะเถอะ ครับเพราะถ้าเป็นไวรัสจริง...เครื่องคงเน่าแล้วละครับพี่น้อง
แนะนำโปรแกรมตรวจจับไวรัสครับ
1.NOD32 2.7.31
2.Avast.Pro.v4.7.869.Inc
3.Kaspersky Internet Security 6.0.0.303 Final
ทั้ง3ตัวนี้จัดอยู่ในระดับ TOP 5 เชียวน่ะ

ทำไอคอนสวยๆไว้ใช้เองก็ได้

หวัดดีครับเมื่อวานได้อีเมล์จากเพื่อนในเวบบอร์ดชื่อ ปกรณ์ ได้ส่งบทความนี้มาให้เห็นแล้วก็คิดว่าน่าเอามาลงเพื่อเผยแพร่มากๆดูแล้วก็ง่ายดีลองทำตามกันดูนะครับ Thank k.pakron

มาทำ ICON ไว้โชว์เอง ด้วยโปรแกรมนี้Picture To Icon



กดเพื่อโหลดโปรแกรม Picture To Icon เพื่อไว้อีกลิ้งค์โปรแกรม Picture To Icon

เอาnameและkeyไปใส่ด้วยนะครับ

Name: Bauer Lindemann

Key : 1-1-2950101-6e83cd85

การ​ Set ​ระบบ​ Lan ​ให้​ต่อเน็ต​ได้​ 2 ​เครื่องของ​ WinXP


พื้นฐานการ​ Setting Network for MS Windows XP All Version Sharing with MS Windows XP All Version.

​วิธีที่​จะ​ทำ​ให้​เปิดไฟล์​แชร์​กัน​ได้​และ​สามารถ​ใช้​ Internet ​ร่วม​กัน​ได้​เป็น​วงนะครับ​
1.​ติดตั้ง​โดย​ปรับเครื่อง​ Server ​ให้​เป็น​แม่ข่ายซะก่อน​
​ทำ​ได้​โดย​ทำ​ตามภาพเลยนะครับ​ ​ที่​
1.1 ​กดปุ่ม​ Start
1.2 ​เข้า​ไปที่​ Control Panel
​หรือ​จะ​กด​ ​ปุ่ม​ winkey+R ​แล้ว​พิมพ์​ "Control" ​ก็​ได้​ครับเพื่อ​เข้า​ไปสู่​ Control Panel
1.3 ​มองหา​ไอคอน​ Network Setup Wizard ​แล้ว​ดับเบิ้ลคลิ๊กเลยครับ​
​(​ถ้า​เป็น​ standard view ​ให้​กด​
--1. Network and Internet Connections
--2. ​ลองมองหา​จะ​เจอ​ Network Setup Wizard
--3. ​กดดับเบิ้ลคลิก​เข้า​ไปเลยครับ)



​อันนี้ของคนที่มีมุมมองแบบ​ Standard ​หลัง​จาก​กด​
​ที่​ Start --> Control Panel --> Network and Internet Connections
​แล้ว​จะ​เจออย่างนี้นะครับ​ให้​กด​ Network Setup Wizard ​เข้า​ไปเลย​
​เพื่อตั้งค่า​ให้​เครื่องที่ต่อเน็ต​ ADSL​เป็น​ Server ​ก่อน



​จะ​เจอหน้าต่าง​ Network Setup Wizard ​ขึ้นมา​ให้​กด​ Next ​ได้​เลยครับ



​กด​ Next ​ต่อ​ได้​เลยครับ



​กดคลิ๊กที่​ ​ปุ่มวงกลมด้านบนเพื่อเลือกตั้ง​ให้​เครื่องเรา​เป็น​ Sever



​อธิบาย​โดย​ภาพ​ ​จาก​มุมมอง​ใน​ View an example
​จะ​เห็นว่าที่ลูกศรชี้​นั้น​คือเครื่องของเรา​จะ​ครับ​จะ​รับหน้าที่​เป็น​ตัวแม่ข่าย​หรือ​ Sever
​สำ​หรับการจัดการ​ให้​เครื่องลูกข่าย​อื่นๆ​ใช้​งาน​ Internet ​ได้​ ​และ​ทำ​หน้าที่​เป็น​แม่ข่ายสำ​หรับวง​ Network ​ด้วย​ครับ



​กด​ Next ​ไปต่อ​ได้​เลยครับ



​มา​ถึง​ขั้นตอนนี้​แล้ว​คุณ​จะ​ต้อง​เลือก​ ​รายการที่คุณ​ใช้​สำ​หรับการเชื่อมต่อไปสู่​ Internet
​ถ้า​คุณติดตั้ง​ ADSL ​แล้ว​จะ​เจอดังรูปนะครับ​ ​มี​ 3 ​บรรทัด​ให้​เลือก​
1. ​คือ​ ​รายชื่อของรายการ​ ADSL ​ที่​ใช้​เชื่อมต่อ​ Internet
2. ​คือ​ ​รายชื่อของ​ Driver ​สำ​หรับ​ Modem ADSL ​ของคุณว่าคุณ​ใช้​รุ่นอะ​ไรก็​จะ​เป็น​ตามรายชื่อของรุ่น​นั้น​
3. ​คือ​ ​รายชื่อของ​ Network ​ที่​ใช้​เชื่อมต่อ​กับ​วง​ Lan ​ของคุณ​ ​ใช้​การ์ดรุ่นไหนก็​จะ​ได้​รายชื่อของการ์ดนะครับ



​ให้​เลือกที่ตัว​ ADSL ​ที่ปรากฎ​ใน​รายชื่อที่คุณ​ใช้​ต่อ​นั้น​แหละครับ​เป็น​หลัก​ ​ทำ​โดย​เอา​เมาส์​ไปคลิก​ ​แล้ว​จะ​มี​แถบสีทึบขึ้น​ ​หรือ​ Hilight ​นั่นแหละครับ​ ​ตามภาพเลย



​เหมือนเดิมครับกด​ Next ​ไปตามขั้นตอน​ได้​เลย



​คราวนี้คุณ​จะ​เจอ​ 2 ​อันล่ะ​
​เป็น​ขั้นตอนที่คุณ​ต้อง​เลือก​แล้ว​ว่า​จะ​เปิด​ให้​ทำ​การแชร์​ไป​ยัง​ช่องทางไหนของการติดต่อที่คุณมี​อยู่

​อันที่​ 1. ​คือ​ ​รายชื่อของ​ Driver ​สำ​หรับ​ Modem ADSL ​ของคุณว่าคุณ​ใช้​รุ่นอะ​ไรก็​จะ​เป็น​ตามรายชื่อของรุ่น​นั้น​
​อันที่​ 2. ​คือ​ ​รายชื่อของ​ Network ​ที่​ใช้​เชื่อมต่อ​กับ​วง​ Lan ​ของคุณ​ ​ใช้​การ์ดรุ่นไหนก็​จะ​ได้​รายชื่อของการ์ดนะครับ

​คุณ​ต้อง​เลือกล่ะ​...



​ให้​คุณไปเลือกเอาอันที่​ไม่​ต้อง​ให้​เปิดทำ​การ​ Share ​ออกไป​
​ที่​เห็นคือผมเอา​ Local Area Connection 3 GlobespanVirata USB ADSL LAN Modem ​ออก​ ​เพราะ​เป็น​ตัว​ Modem ​ของ​ ASDL ​เองออก​
​และ​ให้​คงเหลือ​ไว้​แต่ช่องทางของ​ ​การ​ใช้​ช่องทาง​ใน​วง​ LAN ​เท่า​นั้น



​จะ​ได้​ดังภาพนะครับเหลือ​ไว้​แค่ช่องทางสำ​หรับเครือข่ายของคุณนะครับ​
​แล้ว​ก็กด​ --> Next ​ได้​เลยครับ



​จะ​เข้า​มาพบหน้าต่างของการกำ​หนดชื่อของเครื่องของคุณ​ ​และ​ก็คำ​อธิบาย​ ​ดังที่​เห็นคือ

1. ​คือ​ ​คำ​อธิบายย่อย​ ​ๆ​ ​ของเครื่องของคุณ​ --> ​ไม่​ต้อง​ใส่​ก็​ได้​ครับ​
2. ​คือ​ ​ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ​ --> ​จำ​เป็น​ต้อง​ใส่​นะครับอะ​ไรก็​ได้​ที่ชอบ

​ให้​กรอกนะครับ​ ​ที่​ต้อง​มีคือชื่อเครื่องของคุณ​ใน​ช่องที่​ 2.
​ใน​ที่นี้ผม​ใช้​ว่า​ "CAT" ​คือชื่อเครื่อง​ ​และ​คำ​อธิบายเครื่องผมคือ​ "catserver"

​กรอกเสร็จ​แล้ว​กด​ --> Next



​จะ​พบหน้าต่างที่​ให้​คุณกรอกรายละ​เอียดของชื่อ​ ​เครือข่ายของคุณ​ ​นะครับ​ใส่​อะ​ไรก็​ได้​
*** ​แต่​ต้อง​จำ​ไว้​นะครับว่าค่านี้​เครื่องลูกข่าย​จะ​ต้อง​เหมือนคุณ​ทั้ง​หมด​ ***

​ค่า​เริ่มต้นคือ​ MSHOME ​ใน​ที่นี้ผม​จะ​เปลี่ยนไป​เป็น​ "catserver" ​นะครับ​
​ใน​ที่นี้​ถ้า​คุณ​ไม่​เปลี่ยนก็กด​ Next ​ได้​เลยครับ



ใน​ที่นี้​ถ้า​คุณ​ใช้​ Microsoft Windows XP Service Pack 2 ​จะ​เจออีกหน้าต่าง
​แต่​ถ้า​คุณ​ไม่​ใช้​จะ​ไม่​เจอนะครับ​
​เป็น​หน้าต่างสำ​หรับการตั้งค่าการแชร์​ไฟล์​ใน​เครื่องของคุณต่อเครือข่าย​ซึ่ง​ไม่​เกี่ยว​กับ​การเชื่อมต่อ​ Internet ​สำ​หรับหน้าต่างนี้มีรายละ​เอียดดังนี้

1. ​คือ​ ​เปิด​ให้​สามารถ​ใช้​ ​ไฟล์ข้อมูล​และ​เครื่องพิมพ์ร่วม​กัน​ได้​
2. ​คือ​ ​ปิด​ไม่​อนุญาต​ให้​ใช้​ ​ไฟล์ข้อมูล​และ​เครื่องพิมพ์ร่วม​กัน​
​ถ้า​คุณ​จะ​เลือกอันไหนก็กดเลือกที่ปุ่มวงกลม​ได้​เลยครับ​
*** ​ใน​ที่นี้ผม​ไม่​อนุญาติครับ​ ​เพราะ​ตั้ง​ความ​ปลอดภัย​ไว้​ให้​สูงก่อน​ ​อิอิ

​เสร็จ​แล้ว​กด​ --> Next ​ได้​เลยครับ



​และ​นี่​เป็น​หน้าต่างที่​เครื่อง​จะ​แจ้งข้อมูลที่คุณ​ได้​ตั้ง​ไว้​นะครับ​ ​ถ้า​ทำ​ถูกขั้นตอนก็​ไม่​ต้อง​สงสัยนะครับ​ ​กด​ ---> Next ​ได้​เลยครับ



​เครื่อง​จะ​ทำ​การตั้งค่าตามที่​ได้​กำ​หนด​ไว้​นะครับ​ ​ให้​รอสักครู่



​เสร็จล่ะครับ​ ​มี​ให้​เลือกหน้าต่าง​ให้​เลือกอีกแน่ะ​
​ไม่​ต้อง​ตกใจครับ​ ​สำ​หรับหน้าต่างนี้​จะ​เป็น​หน้าต่างที่​เตรียมการ​ให้​สำ​หรับการตั้งค่า​ไป​ยัง​เครื่องคอมพิวเตอร์​อื่นๆ​ใน​เครือข่ายของคุณครับ​ ​ซึ่ง​เครื่อง​จะ​ถามว่าคุณ​จะ​ทำ​ยัง​ไง​ ​โดย​มีรายละ​เอียดดังนี้นะครับ

1. ​คือ​ ​จะ​สร้างแผ่น​ Network Startup Disk ​ให้​คุณสำ​หรับคอมพิวเตอร์​เครื่อง​อื่น​ ​ๆ​ ​ลงไดร์ฟ​ A: ​หลัง​จาก​คุณกด​ Next
2. ​คือ​ ​จะ​ใช้​ ​แผ่น​ Network Startup Disk ​ซึ่ง​ก็บอกว่า​เรามี​อยู่​แล้ว​
3. ​คือ​ ​จะ​ใช้​แผ่น​ CD ​ของ​ MS Windows XP
4. ​คือ​ให้​เสร็จสิ้น​ได้​เลยเรา​ไม่​ต้อง​การ​จะ​ใช้​งานตัว​ช่วย​แล้ว

​สำ​หรับขั้นตอนของผม​ให้​เลือก​ 4 ​ได้​เลยครับ​ไม่​ต้อง​ยุ่งยาก​
​เสร็จ​แล้ว​กด​ --> Next ​ได้​เลยครับ



​เสร็จล่ะครับ​ ​กด​ Finish ​ได้​เลยครับ



​ถ้า​เป็น​กรณีลงเครื่อง​ใหม่​ ​จะ​ให้​รีสตาร์ท​ ​นะครับ​ ​ก็กด​ OK ​ไป​ ​เครื่องก็​จะ​รีสตาร์ทพอเริ่มมา​ใหม่​ ​ก็​จะ​ใช้​ได้​ล่ะ​ ​เป็น​ Server ​ที่พร้อม​จะ​ปล่อย​ IP ​ให้​เครื่องลูก​แล้ว​
​ถ้า​เครื่อง​ไม่​แจ้ง​ให้​รีสตาร์ท​ ​ผมก็​แนะนำ​ให้​ทำ​นะครับ​ ​เครื่อง​จะ​ได้​จดจำ​ค่า​ใหม่​ไม่​งง


​สำ​หรับเครื่องลูกนะครับ​ให้​ทำ​ตามขั้นตอนแรก​ ​จน​ถึง​ขั้นตอนของ​ Reply #4 ​นะครับเปลี่ยน​เป็น​เลือกที่​ ​เมาส์ชี้​ ​นะครับเพื่อตั้งค่า​ให้​เป็น​เครื่องลูกข่าย



​ภาพขยายเพื่อ​ความ​เข้า​ใจ​ใน​ View example ​ครับ​ ​จะ​เห็นว่าที่​เมาส์ชี้​และ​เขียนว่า​ This Computer ​คือเครื่องลูกข่ายนะครับ​จะ​ทำ​หน้าที่รับข้อมูล​จาก​โลก​ Internet ​ที่​แม่ข่ายส่งมา​ให้​ได้​เลย​ (ตัวแม่ที่​เราตั้ง​ได้​ทำ​หน้าที่​เป็น​ Gate Way ​ซะ​แล้ว​ครับ​ไม่​ต้อง​ ​งงนะครับ)

​ข้อมูลเพิ่มนิดครับ​
Gate Way ​คืออุปกรณ์ที่ทำ​หน้าที่คอยจัดสรรข้อมูล​ให้​กับ​เครื่องคอมพิวเตอร์​ใน​เครือข่ายครับ



​เหมือนเดิมนะครับ​ ​เราตั้งแค่ชื่อเครื่องของเราก็พอสำ​หรับเครื่องลูกข่าย​หรือ​ Client
​ถ้า​ไม่​เข้า​ใจย้อนกลับไปดู​ใน​ Reply #14 ​นะครับ​
​ใน​ที่นี้ผมตั้งว่าชื่อเครื่องลูกนี้ว่า​ "CAT-02" ​ครับ​
​เสร็จ​แล้ว​กด​ --> Next ​ได้​เลยครับ



​สำ​หรับขั้นตอนนี้​ต้อง​ตั้ง​ให้​เหมือน​กัน​กับ​เครื่อง​ Sever ​ที่​เรา​ได้​ตั้ง​ไว้​นะครับ​
​ถ้า​ไม่​เข้า​ใจ​ให้​ย้อนไปดูตาม​ Reply #15
*** ​ค่า​เริ่มต้นคือ​ MSHOME --- ​ตรงนี้คือชื่อของกลุ่มเครือข่ายของคุณครับ​ -- ​ต้อง​เหมือน​กัน​ครับ​ ***

​เสร็จ​แล้ว​ก็กด​ --> Next ​ได้​เลยครับ



​ขั้นตอนนี้​ถ้า​ใช้​ MS Windows XP Service Pack 2 ​จะ​พบนะครับ​ ​ก็​เลือกตามชอบ​ถ้า​ไม่​เข้า​ใจย้อนไปดูที่​ Reply #16 ​นะครับ​
​เสร็จ​แล้ว​กด​ -->Next ​ได้​เลยครับ



​จะ​เข้า​สู่หน้าจอการแจ้งข้อมูลที่​เรา​ได้​ตั้ง​ไว้​นะครับ​
​ให้​ดูว่า​ Work Group ​ของเครื่องที่​เรา​ได้​ตั้ง​ไว้​เหมือน​กับ​เครื่อง​ Server ​ที่​เรา​ได้​เซ็ท​ไว้​ก่อนนะครับ
​เสร็จ​แล้ว​กด​ -->Next ​ได้​เลยครับ



​เครื่องกำ​ลังตั้งค่า​ให้​...​รอสักครู่นะครับ



​เหมือน​กัน​กับ​ขั้นตอนของ​ Server ​ที่​ Reply #19 ​นะครับ​ ​ผมเลือกขั้นตอน​ 4 ​เหมือนเคย​ (Just finish the wizard)

​เสร็จ​แล้ว​กด​ --> Next ​ได้​เลยครับ



​เสร็จ​แล้ว​กด​ Finish ​ได้​เลยครับ​ ​แล้ว​ก็รีสตาร์ท​ได้​เลยครับ​

​จำ​ไว้​นะครับว่า​เครื่องลูก​ Client ​หรือ​เครื่องแม่​ Server ​เมื่อตั้งค่า​แล้ว​ควรที่​จะ​ต้อง​ ​รีสตาร์ทเครื่องเพื่อเปลี่ยนค่าของโปรแกรมเสมอนะครับ

​เสร็จ​แล้ว​ครับ​ ​มาดูวิธีการต่อ​กัน​ล่ะ




​การต่อนะครับไปที่​ Start --> Connect to --> Show all Connections ​ตามภาพครับ



​คุณ​จะ​พบว่าที่​ Icon ​ของ​ ADSL ​เป็น​รูปมือมา​อยู่​ที่​ไอคอน​ ​ก็หมาย​ความ​ว่า​เราทำ​สำ​เร็จ​แล้ว​ครับ
​เดี๋ยวไปปรับค่า​กับ​ผมอีกนิดครับ



​ให้​คลิกขวาที่​ไอคอน​แล้ว​กดมาที่​ Properties ​ตามภาพครับ



​จะ​พบหน้าต่างนี้ล่ะ​ให้​ไปที่​ ​แถบ​ Advanced ​ครับ



​จะ​พบเครื่องหมายถูก​ได้​ถูกคลิก​อยู่​ที่ช่องที่​ 1 ​และ​ 2
​มีรายละ​เอียดดังนี้ครับ​
1. ​คือ​ ​อนุญาต​ให้​เครื่องลูกข่ายที่​เรียกการ​เข้า​สู่​ Internet ​สามารถ​เรียกการเชื่อมต่อ​ได้​อย่าง​ ​อัตโนมัติ​ -- ​ถ้า​ต้อง​การที่​จะ​ควบคุมเองที่​เครื่องแม่ข่าย​ ​หรือ​ Server ​ให้​เอาออก​
2. ​คือ​ ​อนุญาต​ให้​เครื่องลูกข่าย​สามารถ​ควบคุม​หรือ​ยกเลิกการแชร์​ได้​ -- ​ถ้า​ต้อง​การที่​จะ​ควบคุมเองที่​เครื่องแม่ข่าย​ ​หรือ​ Server ​ให้​เอาออกเช่น​กัน​ครับ​

​ใน​ความ​จริง​แล้ว​ผม​ไม่​แนะนำ​ให้​เลือกสองช่องนี้​ไว้​นะครับ​ ​ด้วย​เหตุ​ทั้ง​ปวงด้าน​ความ​ปลอดภัย​และ​สมรรถนะของเครื่อง​ให้​ปิดครับ

​เสร็จ​แล้ว​ก็กด​ OK ​ได้​เลยครับ​ ​เวลา​จะ​ใช้​ก็ก็กดที่​ไอคอนที่​เรา​ได้​แชร์​ไว้​นั่นแหละครับ​ ​แล้ว​เครื่องลูกที่ต่อ​ไว้​จะ​ใช้​งาน​ได้​เป็น​อัตโนมัติ​

​เสร็จสิ้นทุกกระบวนท่า​ความ​รู้​เบื้องต้นสำ​หรับการแชร์​ INTERNET ​ให้​กับ​เครื่องเครือข่าย​ ​ใน​ระบบ​ Microsof Windows XP ​ทุกเวอร์ชั่นล่ะครับ


มารู้จัก malware (virus, worm, trojan, spyware, etc)


Virus = แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆในคอมพิวเตอร์โดยการแนบตัวมันเองเข้าไป มันไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ต้องอาศัยไฟล์พาหะ สิ่งที่มันทำคือสร้างความเสียหายให้กับไฟล์


Worm = คัดลอกตัวเองและสามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้อย่างอิสระ โดยอาศัยอีเมลล์หรือช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ มักจะไม่แพร่เชื่อไปติดไฟล์อื่น สิ่งที่มันทำคือมักจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเครือข่าย


Trojan = ไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ ต้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวโหลดเอาไปใส่เครื่องเองหรือด้วยวิธีอื่นๆ สิ่งที่มันทำคือเปิดโอกาสให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาควบคุมเครื่องที่ติดเชื้อจากระยะไกล ซึ่งจะทำอะไรก็ได้ และโทรจันยังมีอีกหลายชนิด


Spyware = ไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ ต้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวโหลดเอาไปใส่เครื่องเองหรืออาศัยช่องโหว่ของ web browser ในการติดตั้งตัวเองลงในเครื่องเหยื่อ สิ่งที่มันทำคือรบกวนและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้


Hybrid malware/Blended Threats = คือ malware ที่รวมความสามารถของ virus, worm, trojan, spyware เข้าไว้ด้วยกัน


Phishing = เป็นเทคนิคการทำ social engineer โดยใช้อีเมลล์เพื่อหลอกให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินบนอินเตอร์เน็ตเช่น บัตรเครดิตหรือพวก online bank account


Zombie Network = เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากๆ จากทั่วโลกที่ตกเป็นเหยื่อของ worm, trojan และ malware อย่างอื่น (compromised machine) ซึ่งจะถูก attacker/hacker ใช้เป็นฐานปฏิบัติการในการส่ง spam mail, phishing, DoS หรือเอาไว้เก็บไฟล์หรือซอฟแวร์ที่ผิดกฎหมาย


Malware ย่อมาจาก Malicious Software หมายถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกชนิดที่มีจุดประสงค์ร้ายต่อคอมพิวเตอร์และเครือข่าย หรือเป็นคำที่ใช้เรียกโปรแกรมที่มีจุดประสงค์ร้ายต่อระบบคอมพิวเตอร์ทุกชนิดแบบรวมๆ โปรแกรมพวกนี้ก็เช่น virus, worm, trojan, spyware, keylogger, hack tool, dialer, phishing, toolbar, BHO, etc

แต่เนื่องจาก virus คือ malware ชนิดแรกที่เกิดขึ้นบนโลกนี้และอยู่มานาน ดังนั้นโดยทั่วไปตามข่าวหรือบทความต่างๆที่ไม่เน้นไปในทางวิชาการมากเกินไป หรือเพื่อความง่าย ก็จะใช้คำว่า virus แทนคำว่า malware แต่ถ้าจะคิดถึงความจริงแล้วมันไม่ถูกต้อง malware แต่ละชนิดไม่เหมือนกัน
คำว่าไวรัส (virus) ในปัจจุบันนี้ถูกใช้แบบไม่ค่อยจะถูกต้องตรงกับความเป็นจริงเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะความเคยชินหรืออะไรก็ตามแต่ (ผมเองก็เป็น) มันกลายเป็นว่าคนส่วนใหญ่ใช้คำว่า virus แทน worm, trojan, adware, spyware, malicious code, etc. ใช้เรียกแทนยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเข้าใจว่า virus คือ malicious software ทั้งหมดที่บอกไปนั่น อันนี้เป็นความเข้าใจที่ผิด แม้กระทั่งในร่างกฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ก็ยังมีการเสนอขอให้แก้ไขคำว่า virus โดยเปลี่ยนไปใช้คำว่า malware แทน เพราะถ้าไม่งั้นแล้วคนที่ใช้ worm, trojan โจมตีคนอื่นอาจจะไม่มีความผิด เพราะ worm, trojan ไม่ใช่ virus

ที่ถูกต้องใช้คำว่ามาลแวร์ ซึ่งมาจากคำในภาษาอังกฤษว่า malware (malicious software) อันหมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งหมดที่ถูกออกแบบมาให้มีจุดประสงค์ร้ายต่อระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย โปรแกรมเหล่านี้ก็เช่น classic virus, worm, trojan, adware, spyware, toolbar, BHO, hijacker, downloader, phishing, exploit malware รวมไปถึง zero-day attack, zombie network และอื่นๆ

ITW malware ใน the wildlist (แม้กระทั่งใน supplemental list) มากกว่า 90% เป็น worm (hybrid worm) ครับ ไม่ใช่ virus (classic virus) ก็ตามที่ความคิดเห็นที่ 2 บอกนั่นล่ะครับ classic virus โดยเฉพาะแบบ file infector ที่แนบตัวมันเองเข้าไปยังส่วนต่างๆของไฟล์อื่น (host file) และ boot sector virus มันแทบจะหมดยุคไปแล้ว (อาจจะมีพวก proof-of-concept virus บ้าง) ที่ยังพบเห็นอยู่ใน the wildlist ส่วนใหญ่จะเป็น macro virus (ซึ่งเป็น virus บน PC ในยุคท้ายๆ) ซึ่งยังพบเห็นการแพร่ระบาดอยู่บ้าง และ virus ที่ชื่อ VBS/Redlof คือตัวอย่างของ classic virus ที่ยังพอพบเห็นได้ทั่วไป

Malware ที่พบเห็นการแพร่ระบาดทั่วไปและเหมือนจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจมากที่สุดก็คือ worm และ worm ก็ยังแบ่งออกเป็นชนิดแยกย่อยได้ดังต่อไปนี้

- Email Worm เช่น mass-mailing worm ที่ค้นหารายชื่ออีเมลล์ในเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อแล้วก็ส่งตัวเองไปหาอีเมลล์เหล่านั้น
- File-sharing Networks Worm คัดลอกตัวเองไปไว้ในโฟลเดอร์ที่ขึ้นค้นหรือประกอบด้วยคำว่าด้วย sha และแชร์โฟลเดอร์ของโปรแกรม P2P เช่น KaZaa
- Internet Worm, Network Worm โจมตีช่องโหว่ของโปรแกรมและระบบปฎิบัติการเช่นเวิร์ม Blaster, Sasser ที่เรารู้จักกันดี
- IRC Worm ส่งตัวเองจากเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อไปหาคนที่อยู่ในห้องสนทนาเดียวกัน
- Instant Messaging Worm ส่งตัวเองจากเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อไปหาคนที่อยู่ใน contact list ผ่านทางโปรแกรม IM เช่น MSN, ICQ

Trojan เป็น malware อีกชนิดที่พบเห็นการแพร่ระบาดได้ทั่วไป trojan ยังแบ่งออกได้เป็นหลายชนิดดังนี้

- Remote Access Trojan (RAT) หรือ Backdoor ที่เปิดช่องทางให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถเข้ามาควบคุมหรือทำอะไรก็ได้บนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อในแบบระยะไกล
- Data Sending/Password Sending Trojan โขมยรหัสผ่านแล้วส่งไปให้ผู้ไม่ประสงค์ดี
- Keylogger Trojan ดักจับทุกข้อความที่พิมพ์ผ่านแป้นพิมพ์
- Destructive Trojan ลบไฟล์บนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อ
- Denial of Service (DoS) Attack Trojan ใช้ทำ DDoS เพื่อโจมตีระบบอื่น
- Proxy Trojan เปลี่ยนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อให้กลายเป็น proxy server หรือ web server, mail server เพื่อสร้าง zombie network
- FTP Trojan เปลี่ยนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อให้กลายเป็น FTP server
- Security software Killer Trojan ฆ่า process หรือลบโปรแกรมป้องกันไวรัส/โทรจัน/ไฟล์วอลบนเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อ
- Trojan Downloader ดาวน์โหลด adware, spyware, worm เอามาติดตั้งบนเครื่องเหยื่อ

และ malware ที่พบเห็นได้ง่ายทั่วไปในปัจจุบันและสร้างความรำคาญให้มากที่สุดก็คือ spyware (บางตำราอาจใช้คำว่า grayware) ซึ่งแบ่งออกได้เป็นหลายชนิด (ซึ่งบางส่วนก็มีพฤติกรรมคล้ายๆ trojan ด้วย) เช่น

- Adware ดาวน์โหลดและแสดงแบนเนอร์โฆษณา
- Dialer อยู่ตามเว็บโป๊เพื่อใช้ต่อโทรศัพท์ทางไกลไปต่างประเทศ
- Spyware เก็บรวมรวมพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตบนเครื่องเหยื่อ
- Hijacker เปลี่ยนแปลง start page, bookmark บนบราวเซอร์เช่นใน IE
- Trojan like เช่น trojan downlaoder ดาวน์โหลด spyware หรือแบนเนอร์โฆษณา
- BHO (Browser Helper Objects) ยัดเยียดฟังก์ชั่นที่ไม่พึงประสงค์บนบราวเซอร์เช่นใน IE
- Toolbar ยัดเยียด toolbar ที่ไม่พึงประสงค์บนบราวเซอร์เช่นใน IE

และต่อไปนี้คือ trend ใหม่ของ malware บน PC ที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบันและกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งแต่เดิมนักเขียนไวรัสยุคโบราณเขียนไวรัสขึ้นเพราะความสนุก แต่ attacker ในปัจจุบันเขียน malware เพื่อเงินกันแล้ว มีการซื้อขายแลกเปลี่ยน zombie กันด้วยเช่น zombie จำนวน 5,000 เครื่องขาย 500 เหรีญอะไรแบบนี้

Hybrid malware/Blended Threat คือ malware ที่รวมความสามารถของ virus, worm, trojan, spyware เข้าไว้ด้วยกัน

Zero-day attack ในที่นี้หมายถึง การโจมตีของมาลแวร์/แฮคเกอร์ โดยการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ (vulnerability) ที่มีอยู่ในซอฟแวร์หรือระบบปฎิบัติการซึ่งไม่มีใครรู้มาก่อนว่ามีช่องโหว่นั้นอยู่ หรือรู้แล้วแต่ยังไม่มี patch สำหรับอุดช่องโหว่ หรือยังไม่มี signature ของโปรแกรมด้าน security สำหรับตรวจหาการโจมตีที่ว่าในเวลานั้น

Zombie Network คือ เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากๆ จากทั่วโลกที่ตกเป็นเหยื่อของ worm, trojan และ malware อย่างอื่น (compromised machine) ซึ่งจะถูก attacker/hacker ใช้เป็นฐานปฏิบัติการในการส่ง spam mail, phishing, DoS หรือเอาไว้เก็บไฟล์หรือซอฟแวร์ที่ผิดกฎหมาย

จะเห็นได้ว่า worm, trojan, spyware (grayware) ซึ่งพบเห็นการแพร่ระบาดทั่วไปในปัจจุบันนี้มันไม่ใช่ virus และโปรแกรมป้องกันไวรัสทั่วไปส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถป้องกัน malware พวกนี้ได้ทั้งหมดด้วย โปรแกรมป้องกันไวรัสทั่วไปให้ผลดีแทบจะ 100% กับ ITW malware แต่กับมาลแวร์อื่นๆแล้วมันยังไม่มีมาตรฐานอะไรมาทดสอบโปรแกรมป้องกันไวรัส ดังนั้นแค่โปรแกรมป้องกันไวรัส (จริงๆแล้วน่าจะเรียกว่าโปรแกรมป้องกันมาลแวร์มากกว่า) แค่อย่างเดียวไม่สามารถป้องกันมาลแวร์ที่กล่าวมาได้ทั้งหมด

แต่มีโปรแกรมป้องกันไวรัสอยู่ยี่ห้อหนึ่งซึ่งเน้นการตรวจหามาลแวร์ทุกๆอย่างที่กล่าวมาแบบเอาจริงเอาจัง แบบเอาเป็นเอาตาย (ไม่มาลแวร์ก็เครื่องของเราได้ตายกันไปข้างหนึ่ง) โปรแกรมนั้นคือ Kaspersky Anti-Virus (KAV) อันนี้ผมไม่ได้ค่าโฆษณา ผมไม่ได้ขาย KAV และไม่ได้ชี้นำใครนะครับ แต่บอกจากความรู้และประสบการณ์ที่ผมมี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโปรแกรมอื่นๆ ไม่ดีนะครับ ก็อย่างที่บอกคือ โปรแกรมป้องกันไวรัสแทบจะทุกยี่ห้อสามารถป้องกันกลุ่มมาลแวร์ที่สำคัญที่สุด ที่พวกเรามีโอกาสพบเจอมากที่สุด อันตรายที่สุด ที่เรียกว่า ITW malware ได้แบบ 100% หากเราอัพเดทมันทันเวลาและใช้มันอย่างถูกต้อง ส่วนมาลแวร์อื่นๆที่เหลือเราก็ใช้โปรแกรมเฉพาะทางอื่นๆ ช่วย เช่น โปรแกรมป้องกันโทรจัน โปรแกรมป้องกันสปายแวร์ ไฟล์วอล และอื่นๆ
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ติด malware (virus, worm, trojan, spyware, etc)

1. ทางอีเมลล์ โดยเฉพาะการดูดอีเมลล์จาก pop3 server ด้วยโปรแกรมอย่าง Outlook Express ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหนอนอินเตอร์เน็ตประเภท

mass-mailing worm เช่น Netsky, Beagle, Mydoom

2. จากช่องโหว่ (vulnerability) ของระบบปฏิบัติการหรือของโปรแกรม โดย network worm, mass-mailing worm ที่โจมตีช่องโหว่ของ Windows เช่น Blaster, Sasser, Bobax ซึ่งต่อไปอาจจะเป็นกรณีของ zero-day attack

3. จากการเข้าไปในเว็บที่มี malicious script/malware ซ่อนอยู่ก็อย่างเว็บโป๊ เว็บ crack ทั้งหลาย เช่นพวก dialer, trojan downloader,

spyware, browser hijacker

4. จากการเข้าไปในเว็บธรรมดาที่ติดไวรัสเช่น VBS/Redlof

5. จากการเคลื่อนย้ายไฟล์จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งผ่านทางแผ่นดิสก์เช่น macro virus ที่อยู่ในไฟล์ของ MS Office

6. การดาวโหลดไฟล์จากเครือข่าย P2P อย่างเช่น KaZaA เช่น P2P worm และโทรจันทั้งหลาย

7. จากการดาวโหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถืออย่างเช่นเว็บ crack, warez ส่วนใหญ่จะเป็นพวก private/modified trojan

8. จากการเล่นหรือรับไฟล์จากโปรแกรมประเภท Instant Message เช่น MSN, ICQ

9. จากการเล่นโปรแกรมประเภท IRC เช่น Pirch98 เช่น IRC Worm


แฮกเกอร์? (Hacker)
เรื่องราวของแฮกเกอร์?ได้?เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี? ?ค?.?ศ?. 1970 ?เป็น?การลักลอบ?เข้า?ไป?ใช้?โทรศัพท์ของ? AT&T ?ด้วย?การควบคุม?ความ?ถี่? ?แต่?ผู้?เป็น?ตำ?นาน?และ?กล่าวขาน?กัน?มากที่สุดคือ? Kevin Mitnick ?ที่ลักลอบ?เข้า?สู่?เครือข่ายคอมพิวเตอร์ต่าง? ?ๆ? ?ไม่?ว่า?เป็น?การทำ?ลายข้อมูลเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของธนาคาร? ?แอบเปลี่ยนรายงานสินเชื่อ? ?แอบตัดสัญญาณโทรศัพท์? ?ที่ทำ?ชื่อเสียงคือ? ?การขโมยเลขที่บัตรเครดิต?และ?รหัสไป?ใช้?
แฮกเกอร์?เป็น?บุคคลที่มี?ความ?ชำ?นาญ?ใน?ด้านการ?ใช้?งานคอมพิวเตอร์? ?แต่นำ?ประสบการณ์มา?ใช้?ใน?ทางที่?ไม่?ถูก?ต้อง?เท่า?ไร? ?แฮกเกอร์บางครั้งก็ทำ?เพื่อสร้างสรรค์? ?แต่บางครั้งก็?เป็น?การทำ?ลาย? ?ดัง?นั้น?เครื่องที่ต่อ?อยู่?กับ?เครือข่าย?จึง?มี?โอกาสถูกเจาระระบบ?ได้? ?แม้?แต่?เป็น?เครื่องพีซี?

ใน?ระยะนี้?ได้?ข่าวว่ามี?ไวรัสระบาดมาก? ?โดย?เฉพาะ?ไวรัสประ?เภท? Internet worm virus ?โดย?จะ?ส่งจดหมาย?ใน?ลักษณะ? mail bomb ?คือ? ?ส่งจดหมาย?ฉบับ?เดียว?กัน?มาหา?ผู้?รับจำ?นวนหลายๆ?ฉบับ? ?เช่น? 100 ?ฉบับ? ?หรือ? 1,000 ?ฉบับ? ?ซึ่ง?ก่อปัญหา?เป็น?อย่างมาก? ?ไวรัสที่?ได้?พบเจอบ้าง?แล้ว?ได้?แก่?

* W95/MTX.gen@M
?เปิดอ่านข้อมูลเกี่ยว?กับ?ไวรัสตัวนี้?ได้?จาก? w95/mtx@m Virus ?หรือ? W95/MTX@M Internet Worm

VCD ภาพยนต์ ใส่ Virus มาอีกแล้ว

จากที่ผมเคยเจอคำถามเรื่อง แก้ปัญหาแผ่น CD ภาพยนต์ ใส่ Malware (มาให้ด้วย) ไปเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งบอกถึงอาการที่เกิดขึ้นกับเครื่องคอมที่ช้าลงจนถึงค้างทำอะไรไม่ได้เพราะโดนเจ้าตัว Malware นี้เข้าไป ซึ่งโดยมากเค้าจะฝังมากับแผ่น VCD ภาพยนต์ ของค่ายหนัง ในเมืองไทยนี้หละครับ
แต่มาคราวนี้ ผมก็ต้องมาเจอกับอีกรุ่นนึง ของเจ้า Malware ตัวดังกล่าว ที่ไม่แสดงอาการ ทำให้เครื่องช้า อย่างเด่นชัดมากนัก ซึ่งให้สังเกตุที่ CPU Uses ว่าเป็น 100% หรือไม่
สำหรับเจ้าตัวใหม่นี้ ไม่ก่อให้เกิดอาการเครื่องช้าอย่างโจ่งแจ้ง แต่กลับทำให้ผมไม่สามารถ write แผ่น CD และ DVD ได้ ทั้งๆที่ เป็นการ backup ข้อมูลขอตัวผมเอง ทำให้ผมเสียแผ่นไปหลายแผ่น เสียอารมณ์มากๆ
เลยคิดขึ้นมาว่า อาจโดน virus เล่นงาน เลยทำการตรวจสอบจน พบกับ เจ้าตัว Malware รุ่นใหม่(ล่าสุดหรือเปล่า ไม่แน่ใจ)
การตรวจสอบสาเหตุ อาการช้าของเครื่อง
ทำการเปิด Windows Task Manger โดยการคลิกเมาส์ขวาบน Task Bar แล้วเลือก เมนู Task Manager จะปรากฏหน้าต่างดังรูป
ทำการตรวจสอบรายการว่า มี Process ที่ชื่อ csrss.exe 2 รายการ และ smss.exe 2 รายการหรือไม่ ถ้ามี ก็หมายความ คงโดน Malware หรือ พวก Trojan ตัวใดตัวหนึ่ง หรือไม่อาจเป็นการที่คุณมีการใช้งานโปรแกรบางประเภท (กรณีนี้ ผมยังไม่เคยเจอ เหมือนกันครับ)
สำหรับการทดลองไปดู Performance ก็จะเป็นได้ว่า CPU ที่เป็นปกติ ต้องยอมรับกันจริงๆครับ ว่าตัว Malware ใหม่นี้ ทำงานได้อย่างแนบเนียน มากๆ
ทำการเปิด Explorer ไปยัง C:\WINDOWS\system\Level4 และ C:\Program Files\Windows Media Player\Skins\WindowsMediaSkin\Data\Level4 ว่ามีไฟล์ csrss.exe หรือ smss.exe ตามลำดับ หรือไม่
ถ้าไม่มีไฟล์ ดังกล่าว อาจเป็นไปได้สูงมาก ที่เครื่องคุณอาจติด Virus หรือ Trojan ตัวอื่น ให้ update โปรแกรม AntiVirus ที่ใช้อยู่ แล้ว Scan ให้สิ้นซาก
แต่หากว่าคุณมีไฟล์ csrss.exe และ smss.exe เช่นเดียวกับผมแล้ว เราคงต้องมาทำการ นำเจ้าตัวร้ายนี้ ออกไปซะที โดยใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า Security Task Manager ครับ เป็น shareware สามารถดาว์นโหลดได้จาก
http://www.neuber.com/taskmanager/
เมื่อติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการแสดงรายการของ Process ซี่งจะมี Process ของโปรแกรม AutoIt v3 Compiled Scritp จำนวน 2 รายการ ที่มีค่าการใช้งาน CPU มาก
ให้คลิกเลือกรายการทั้งสอง ทีละรายการ แล้วคลิกปุ่ม Remove จากด้านบน และให้ทำการคลิกเลือก End process ตามด้วยคลิกปุ่ม OK เพื่อหยุดการทำงาน ของ Process ทั้งสอง
ต่อไปจะต้องทำการ Remove ข้อมูลใน Registry เพื่อไม่ให้ Malware ตัวนี้ทำงานได้อีก
โดยคลิกที่เมนู Start -> Run แล้วป้อน regedit คลิกปุ่ม OK จะปรากฎหน้าต่าง Registry Editor จากนั้นให้คลิกเลือกไปตาม เมนูย่อยทางซ้ายมือ ดังนี้ HKEY_LOCAL_MACHINE - -> SOFTWARE - -> Microsoft - -> Windows - -> CurrentVersion - ->Run ให้ทำการ ลบรายการของ ออกทั้ง 2 รายการ จากด้านขวามือ ดังรูป

ทิ้งทาย ตัวโปรแกรมที่ใช้ในการกำจัดมาลแวร์ตัวนี้ถ้าอยากได้ แครก ให้แจ้งมานะครับ